วันอาทิตย์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2563

Covid 19

 

Covid 19


Covid-19 ilə əlaqədar dünyada baş verən son hadisələr

  

 ที่มาของ Covid 19     

            การระบาดครั้งแรกเกิดขึ้นที่ตลาดค้าสัตว์ป่าเมืองอู่ฮั่นหรือตลาดขายอาหารทะเลสด South China Seaboard เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย ประเทศจีน จากนั้นการแพร่ระบาดกระจายไปในหลายพื้นที่ ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโควิด-19 ทำให้ผู้ป่วยมีอาการปอดอักเสบรุนแรงจนถึงแก่ชีวิตได้ โดยที่เชื้อไวรัสตัวนี้สามารถแพร่กระจายจากคนสู่คนผ่านการ ไอ จาม หรือสัมผัสกับสารคัดหลั่งของผู้ป่วย    

ทีมนักวิจัยสันนิษฐานว่าตัวนิ่ม หรือ ลิ่น สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่เชื่อว่ามีสรรพคุณตามยาแผนโบราณและถูกลักลอบล่าเพื่อนำส่งขายในตลาดสัตว์ป่ามากที่สุดในประเทศจีน อาจเป็นพาหนะนำเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 จากค้างคาวมาสู่คน เนื่องจากตัวนิ่มอาจได้รับเชื้อไวรัสจากการสูดหายใจมูลค้างคาวที่ตกตามพื้นดิน ขณะที่มันกำลังใช้ลิ้นตวัดกินมดและแมลง

ประเทศไทยในสถานการณ์โควิด - 19 ระบาด

         วันที่ 12 มกราคม 2563 พบผู้ป่วยหญิงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ติดเชื้อโควิด-19 ในไทยคนแรก กระทรวงสาธารณสุขของไทยประกาศ เมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2563 ว่าพบนักท่องเที่ยวหญิงวัย 61 ปี สัญชาติจีน ซึ่งมีภูมิลำเนาอยู่ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน ติดเชื้อโควิด-19 นับว่าเป็นการพบผู้ติดเชื้อคนแรกนอกประเทศจีน จากการสอบสวนโรค พบว่า เธอเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่น ถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ 3 ม.ค. 2563  อีก 2 วันต่อมาพบว่า เธอมีอาการเจ็บคอ มีไข้ หนาวสะท้าน และปวดหัว จากนั้นในวันที่ 8 ม.ค. เธอเข้ารับการรักษาในห้องแยกโรคความดันลบของสถาบันบำราศนราดูร ผลทดสอบหาโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก เมื่อทราบผลดังกล่าว ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรคได้ติดตามอาการผู้สัมผัสความเสี่ยงสูง 40 คน และรวบรวมข้อมูลสำหรับติดตามผู้สัมผัสความเสี่ยงต่ำอีก 145 คน


วิธีการการป้องกัน Covid-19 และการดำเนินการของประเทศไทย  

วิธีป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19

    -ล้างมือบ่อยๆ โดยใช้สบู่และน้ำ หรือเจลล้างมือที่มีส่วนผสมหลักเป็นแอลกอฮอล์

    -รักษาระยะห่างที่ปลอดภัยจากผู้ที่ไอหรือจาม

    -สวมหน้ากากอนามัยเมื่อเว้นระยะห่างไม่ได้

    -ไม่สัมผัสตา จมูก หรือปาก

    -ปิดจมูกและปากด้วยข้อพับด้านในข้อศอกหรือกระดาษชำระเมื่อไอหรือจาม

    -เก็บตัวอยู่บ้านเมื่อรู้สึกไม่สบาย

    -หากมีไข้ ไอ และหายใจลำบากโปรดไปพบแพทย์


การดำเนินการของประเทศไทย

การดำเนินการของไทยต่อโควิดนั้น มีมาตรการแนวทางที่ให้ประชาชนได้ทาบข้อมูลและข้อปฏิบัติตนต่อโรคโควิด เช่น การเคอร์ฟิว 4 ทุ่ม – ตี4 การแสดงตนว่าไปที่ใดมาผ่านแอปพลิเคชัน ไทยชนะ” , การมีมาตรการให้ใส่หน้ากากอนามัย การมีเจลแอลกอฮอร์ไว้ล้างมือตามจุดต่างๆ


การอ่านข้อมูลสถิติการระบาดในปัจจุบันของ Covid-19

• ในวันที่ 19 มีนาคม 2563 กระทรวงสาธารณสุขแถลงผลตรวจโรคจากห้องปฏิบัติการและยืนยันการพบผู้ป่วยใหม่60รายจากโรคโควิด 19 ทำให้จำนวนรวมของผู้ที่ป่วยด้วยโรคนี้ ในประเทศไทย อยู่ที่ 272 ราย

• ผู้ป่วยใหม่ 12 รายมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจากสถานบันเทิง (ณ ตอนนี้พบผู้ป่วยแล้ว 57 ราย) และ14 รายมีความเกี่ยวโยงกับกลุ่มผู้ติดเชื้อจากสนามมวย (ณ ตอนนี้พบผู้ป่วยแล้ว 52 คน) ในผู้ป่วยกลุ่มนี้ยังประกอบด้วยพนักงานเสิร์ฟ พนักงานฝ่ายบริหารผู้ชมและญาติ

 • ผู้ป่วย 12 รายเป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายอื่นที่ได้มีการรายงานไปก่อนหน้านี้ ผู้ป่วย 5 รายมีความเกี่ยวโยงกับการเข้าร่วมศาสนพิธีที่ประเทศมาเลเซีย ผู้ป่วย 13รายมีปฏิสัมพันธ์กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเนื่องจากการทำงาน และอีก 4ราย กำลังอยู่ในระหว่างสอบสวนโรค

  จากจำนวนผู้ป่วยด้วยโรคโควิด 19 ที่ได้รับการยืนยันทั้งหมด 272รายในประเทศไทย มี 42 รายที่หายเป็นปกติแล้ว 229 รายกำลังรักษาตัวอยู่ในสถานพยาบาล และมีผู้เสียชีวิต 1ราย

  จำนวนสะสมของผู้ป่วยเฝ้าระวังที่เข้าเกณฑ์สอบสวนโรคอยู่ที่ 8,157ราย นับตั้งแต่ที่เริ่มมีการระบาดของโรคโควิด 19 ในประเทศไทยผู้ป่วย 3,572รายในจำนวนนี้กำลังได้รับการวินิจฉัย หรือการรักษา โดยผู้ป่วยในกลุ่มนี้ยังรวมถึง บุคคลที่กำลังได้รับการรักษาด้วยอาการป่วยอื่น ๆ ซึ่งไม่ถือเป็นผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิด 19อีกต่อไป

 • ประเทศไทยแถลงว่าจะเข้าร่วมวิจัยในโครงการSolidarity Trial ขององค์การอนามัยโลก ซึ่งเป็นการศึกษาวิจัยทางการแพทย์ระดับนานาชาติเพื่อคิดค้นยารักษาสำหรับโรคโควิด 19 โดยถือเป็นส่วนหนึ่งของภารกิจเร่งด่วนระดับโลกในการหายารักษาโรคโควิด 19

 

สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย วันที่ 2 มิถุนายน 2563

         สถานการณ์ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ในประเทศไทย ณ วันที่ 2 มิถุนายน 2563 มีรายงานผู้ติดเชื้อสะสม 3,083 ราย ใน 68 จังหวัด (เพิ่มขึ้น 1 ราย) ไม่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่จากภายในประเทศ (ติดต่อกันเป็นวันที่ 8) มีผู้ติดเชื้อในกลุ่มผู้ที่กลับจากต่างประเทศใน State quarantine เพิ่มขึ้น 1 ราย เสียชีวิตรวม 58 ราย (เพิ่มขึ้น 1 ราย) รักษาหายป่วยแล้ว 2,966 ราย (96.21%) (เพิ่มขึ้น 1 ราย) ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่เพิ่มขึ้นในวันนี้ 1 ราย เป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ (ประเทศซาอุดิอาระเบีย) อยู่ใน State quarantine โดยเข้ารับการรักษาที่จังหวัดสงขลา

           

             ประเทศไทยกำลังอยู่ช่วงที่การแพร่ระบาดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อระหว่างการเป็นประเทศที่ไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้หรือประเทศที่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ (Golden Period) ถ้าทุกคนอยู่กับบ้านยอดผู้ติดเชื้อจะเหลือ 24,269 คน จากเดิมคาดการณ์ไว้หากไม่อยู่กับบ้านจะมีผู้ติดเชื้อ 351,948 คน และจะทำให้ยอดผู้เสียชีวิตเหลือเพียง 485 คน จากที่คาดการณ์หากไม่อยู่บ้านจะมีผู้เสียชีวิตถึง 7,039 คน

            

แหล่งอ้างอิง

https://news.thaipbs.or.th/content/290347

https://ddc.moph.go.th/viralpneumonia/file/im_commands/im_commands09.pdf

https://www.mhesi.go.th/home/index.php/pr/covid-19

https://www.marketingoops.com/reports/fast-fact-reports/analysis-crisis-covid-19/

https://www.who.int/docs/default-source/searo/thailand/2020-03-19-tha-sitrep-26-covid19-th-final.pdf?sfvrsn=5b88c757_0

https://www.google.com/search?q=%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%9F%E0%B8%B4%E0%B8%A7&sxsrf=ALeKk01x0mFcWMhOScdmoYLM8LQ1ymx9ow:1598846145768&source=lnms&tbm=isch&sa=X&ved=2ahUKEwiZo8aExsTrAhXLT30KHQ9EAtYQ_AUoA3oECBIQBQ&biw=706&bih=688